พระลักษณะของพระเจ้าเป็นอย่างไร ?

เรารู้จักว่าคนๆหนึ่งเป็นอย่างไรได้ ก็จากการได้เห็นวิธีการใช้ชีวิตของเขา ได้พบปะเขา และการได้ทำกิจกรรมร่วมกับเขา เช่นเดียวกันกับการทำความรู้จักผู้คน เราสามารถเรียนรู้จักว่าพระเจ้าทรงเป็นอย่างไรได้ด้วยวิธีการเดียวกัน เราเห็นสิ่งที่พระองค์ทำได้ผ่านทางพระคัมภีร์ เพราะในนั้นเขียนบรรยายสิ่งที่พระองค์ได้กระทำและอธิบายบอกเราอะไรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพระองค์ ซึ่งก็ไม่ได้มีเพียงแต่ความรู้จากพระคัมภีร์เท่านั้นที่ทำให้เราได้รู้จักพระเจ้า เราสามารถเรียนรู้จักพระเจ้าได้มากขึ้นโดยประสบการณ์ส่วนตัวของเราผ่านทางการอธิษฐานและการนมัสการ เมื่อเราตัดสินใจมอบชีวิตของเราให้พระเจ้า พระองค์ก็จะทรงดูแลและนำชีวิตของคุณ และถือว่าคุณเป็นลูกของพระเจ้า และในทุกๆวันคุณก็จะมีพระเจ้าเป็นพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ของคุณ ด้วยการรับเชื่อและการเข้ามาอยู่ในครอบครัวเดียวกันกับพระองค์นี้ นับว่านี้เป็นวิธีการเรียนรู้ถึงพระลักษณะของพระเจ้าที่ดีที่สุดแล้วค่ะ

พระเจ้าทรงมีลักษณะเป็นพระวิญญาณ

พระคัมภีร์บอกเราว่า พระเจ้าเป็นวิญญาณ (ยอห์น4:24) ดังนั้นการจะรู้จักพระเจ้าจะยากกว่าการที่จะรู้จักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พระเจ้ารู้สิ่งนี้ดี พระองค์จึงได้เตรียมวิธีช่วยให้เราเข้าใจความเป็นพระองค์ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้น นั้นคือการที่พระองค์ลงมากลายเป็นมนุษย์เอง “พระสิริของพระเจ้าทั้งหมดถูกถ่ายทอดลงในชีวิตของคนๆหนึ่ง” บุคคลนั้นคือพระเยซูคริสต์ (โคโลสี 2:9) ดังนั้นถ้าเรายังมีข้อสงสัยว่าพระเจ้ามีพระลักษณะเป็นอย่างไร มีมุมมองต่างๆอย่างไร ให้เราไปมองดูที่พระเยซู เมื่อเรารู้จักว่าพระเยซูเป็นอย่างไร เมื่อนั้นเราก็ได้รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงมีพระลักษณะเช่นเดียวกัน

แล้วในพระคัมภีร์ที่เราได้อ่านกันได้เขียนอธิบายพระลักษณะของพระเจ้าไว้อย่างไรบ้าง?

พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่เราไว้วางใจได้

อันดับแรกพระองค์เป็นผู้ที่เราเชื่อถือได้ เมื่อเรารู้ว่าพระเจ้าทรงเป็นเช่นไร เราไม่จำเป็นต้องกลัวเลยว่า วันพรุ่งนี้พระองค์จะเปลี่ยนไป“ พระเยซูคริสต์ทรงเป็นเช่นเดิมไม่จะเมื่อวาน วันนี้ หรือจะตลอดไป ” (ฮีบรู 13:8) พระเจ้าทรงรักษาพระสัญญาของพระองค์เสมอ

พระเจ้าทรงเป็นความรัก

ลักษณะที่สอง พระเจ้าทรงเป็นความรัก (1 ยอห์น 4:8 ) ชีวิตของพระเยซูทำให้ข้อความนี้ชัดเจนมากขึ้น พระเยซูทรงรักคนที่สังคมทอดทิ้ง ,พระองค์โอบกอดเด็กเล็กๆ ,พระองค์เชื้อเชิญคนเก็บภาษีบุคคลที่เป็นที่รังเกียจของชาวอิสราเอลให้มาติดตามพระองค์ ,สำหรับพระเยซูคริสต์การแสดงความรักของพระเจ้าให้กับหญิงโสเภณีนั้น สำคัญเสียยิ่งกว่าชื่อเสียงของพระองค์เอง ชีวิตของพระเยซูเป็นการแสดงความรักของพระเจ้าพระบิดาที่มาเป็นรูปธรรมได้สมบูรณ์แบบที่สุด เพราะพระเจ้าทรงมอบพระบุตรองค์เดียวของพระองค์นั้นคือพระเยซูคริสต์ให้เรา เพื่อว่าเราทุกคนที่เชื่อและวางใจในพระองค์จะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร์ (ยอห์น 3:16 )

พระเจ้าทรงยุติธรรม

ข้อที่สาม พระเจ้าทรงยุติธรรม “ พระเจ้าผู้ซื่อสัตย์ ผู้ไม่ทำสิ่งผิดใดๆ พระองค์ทรงชอบธรรมและยุติธรรม” ( เฉลยธรรมบัญญัติ 32:4 ) พระเจ้ารักความจริงและความยุติธรรม แต่พระองค์ทรงเกลียดการหลอกลวงและความอยุติธรรม ความชอบธรรมที่สมบูรณ์แบบเราเห็นได้ในชีวิตของพระเยซู พระองค์ได้กล่าวไว้ว่า “ มีใครในพวกท่านที่พิสูจน์ได้ว่าเราทำบาปบ้าง ” (ยอห์น 8:46)

พระเจ้าทรงบริสุทธิ์

ข้อที่สี่พระเจ้าทรงบริสุทธิ์ อิสยาห์ 6:3 กล่าวว่า “ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ คือพระยาเวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ทั่วโลกเต็มไปด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์ ” พระเจ้าน่ายกย่องและสรรเสริญ พระสิริของพระเจ้าเป็นสิ่งที่แยกพระองค์ออกจากความบาป พระเจ้าทรงบริสุทธิ์ ความบาปไม่สามารถอยู่ร่วมกับพระเจ้าได้ ทุกสิ่งที่เป็นพระเจ้านั้นคือสิ่งสวยงาม ส่วนทุกสิ่งที่เป็นความบาปนั้นเป็นสิ่งน่าเกลียด ความบริสุทธิ์เช่นเดียวกันนี้ อยู่ในพระเยซูคริสต์ พระองค์จึงถูกเรียกว่าเป็น “ องค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า ” (ยอห์น 6:69)

พระเจ้าทรงมีใจเมตตากรุณา

พระลักษณะที่ห้า พระเจ้าทรงเมตตา มีพระคัมภีร์ข้อหนึ่งที่ได้อธิบายเผยถึงลักษณะของพระเจ้าได้อย่างชัดเจน ในครั้งที่พระเจ้าปรากฏตัวบนภูเขาต่อโมเสส ในอพยพ 34:6-7 “ พระองค์เสด็จผ่านหน้าโมเสสไปพร้อมทั้งประกาศว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณาและพระคุณ ทรงกริ้วช้า บริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ ผู้แสดงความรักมั่นคงต่อคนนับพันชั่วอายุ โดยให้อภัยความชั่วร้าย การกบฏ และบาป แต่พระองค์จะไม่ทรงละเว้นโทษผู้กระทำผิด พระองค์จะทรงลงโทษลูกหลานของเขาเพราะบาปของบรรพบุรุษถึงสามสี่ชั่วอายุคน ” ในข้อนี้เราได้เห็นพระลักษณะของพระเจ้าทั้งห้าข้อตามที่ได้พูดมาข้างบน แต่สิ่งที่ชัดเจนมากที่สุดคือ ความเมตตาของพระเจ้าในการให้อภัยคนบาป ซึ่งสมบูรณ์ในชีวิตของพระเยซู ในพระเมตตาของพระเจ้า พระองค์ทรงส่งพระเยซูคริส์ลงมาตายแทนบาปของเรา เมื่อเราเชื่อในพระเยซู พระเจ้าจะทรงรับเราเป็นลูกของพระองค์

เมื่อเราได้มาเป็นลูกของพระเจ้า เรามีเวลาตลอดชีวิตในการเรียนรู้พระลักษณะของพระ้เจ้าได้อย่างละเอียดมากขึ้นทุกๆวัน แต่หลักแกนกลางในพระลักษณะของพระเจ้าก็ยังคงจะเป็นเช่นเดิมอย่างนี้ตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง ความเชื่อถือได้ยึดมั่นได้,ความรัก,ความชอบธรรมความยุติธรรม,ความบริสุทธิ์และความเมตตากรุณา

บทความนี้ได้พูดอะไรกับคุณเป็นพิเศษไหม? เชิญร่วมแสดงความคิดเห็นข้างล่างค่ะ

แชร์โพสต์