พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเราทุกครั้งไหม ?

เราที่เชื่อในพระเจ้า รู้ว่าพระองค์ฟังคำอธิษฐาน แต่เราเชื่อจริงๆไหม ว่าพระองค์ทรงตอบทุกคำอธิษฐานเหล่านั้น พระเจ้าตอบคำอธิษฐานครับ ตอบในวิธีและเวลาของพระองค์ซึ่งอาจไม่ใช่คำตอบที่เราต้องการและอาจเป็นคำตอบที่ทำให้เราสงสัยในพระองค์ ว่าพระองค์รักเราจริงหรือเปล่า แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราจะเข้าใจว่าวิธีการและคำตอบของพระองค์เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราในตอนนั้นแล้ว ไม่ใช่คำตอบที่เราคาดหวัง ผู้พยากรณ์ฮาบากุกเคยสงสัยในพระเจ้า ว่าจริงๆแล้วพระองค์รักชนชาติอิสราเอลหรือเปล่า เพราะพระองค์ให้คนที่ทำบาปและคดโกงขึ้นมามีอำนาจปกครองประเทศ คนเหล่านั้นกดขี่ข่มเหงคนจนและคนไม่มีทางสู้ และดูเหมือนว่าพระเจ้าไม่ได้สนใจในความทุกข์นี้เลย ในพระธรรมฮาบากุก 1:2 คือสิ่งที่ฮาบากุกถามพระเจ้า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะต้องร้องทูลขอความช่วยเหลือนานเพียงใดพระองค์จึงจะทรงสดับฟัง” บางครั้งในชีวิตเรา อาจเกิดคำถามนี้ขึ้นมาได้ด้วยเช่นกัน ความจริงพระเจ้าได้ตอบฮาบากุกแล้ว แต่ไม่ได้เป็นคำตอบที่เขาหวัง วิธีการแก้ไขปัญหาความบาปของชาวยูดาห์ของพระเจ้านั้น คือการที่พระองค์ปล่อยให้ชาวบาบิโลนที่มีความโหดเหี้ยมรุกรานเมืองอิสราเอล ฮาบากุกก็ได้ร้องต่อพระเจ้าอีกถึงการที่คนชาติเดียวกันกับเขาถูกฆ่าอย่างทารุณเกินมนุษย์โดยชาวบาบิโลนในครั้งนี้ ซึ่งพระเจ้าก็ได้ยืนยันกับเขาเหมือนกันว่าพระองค์จะจัดการกับชาวบาบิโลนด้วยเช่นกัน (ฮาบากุก 1:12-2:20) ในท้ายสุดฮาบากุกถึงได้เข้าใจว่าพระเจ้าทรงฤทธานุภาพ พระเจ้าดีเสมอ และไม่ว่าอย่างไรอะไรจะเกิดขึ้น เราสามารถวางใจในพระองค์ได้ “แม้ต้นมะเดื่อไม่ผลิดอกและเถาองุ่นไม่มีผล แม้ต้นมะกอกไม่ให้ผลและท้องทุ่งไม่ให้พืชพันธุ์ธัญญาหาร แม้ไม่มีแกะในคอกและไม่มีวัวในโรง กระนั้นข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะเบิกบานใจ ในพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงเป็นกำลังของข้าพเจ้า พระองค์ทรง ทำให้เท้าของข้าพเจ้าเหมือนเท้ากวาง พระองค์ทรงช่วยให้ข้าพเจ้าขึ้นไปบนที่สูง” (ฮาบากุก 3:17-19) คำตอบที่พระเจ้าจะตอบคำอธิษฐาน เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า เมื่อเราอธิษฐานมีคำตอบอยู่ 3 ลักษณะที่พระเจ้าสามารถให้เรานั้นคือ ได้,ไม่ได้ และให้รอก่อน ได้ […]